ในชีวิตของคนเรานั้น ถ้าสังเกตุดูดีๆแล้วทุกๆอย่ างในชีวิตของเราแทบจะเป็นวิ ทยาศาสตร์ไปซะทูกอย่าง
นับตั้งแต่ตื่นนอน ลืมตาก็ต้องใช้หลักในการมองเห็น แม้กระทั่งจะอาบน้ำก็ยังมีหลั กวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้อง
เช่น การที่น้ำตกลงจากที่สูงไปหาต่ำ ความเป็นกรดเป็นด่างของสบู่ เป็นต้น
เช่น การที่น้ำตกลงจากที่สูงไปหาต่ำ ความเป็นกรดเป็นด่างของสบู่ เป็นต้น
ต่อไปถ้าพูดถึงการกินข้าว สารอาหารต่างๆที่อยู่ ภายในอาหารต่าง
และไม่ว่าเราจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไรก็จะต้องมีหลักวิ ทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้องเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของสมอง การเติบโต และการทำงาน
ของร่างกาย หรือใครหลายๆคนที่ชอบเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็น
ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเก็ตบอล เป็นต้นก็จะมีหลักทางวิ ทยาศาสตร์
หรือหลักทางฟิซิกส์ เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างแน่นอน
เพียงแต่คนเราไม่ได้ให้ ความสนใจหรือใส่ใจกับหลักวิ ทยาศาสตร์เหล่านั้นเอง
ถ้าคนเราใส่ใจกับหลักวิ ทยาศาสตร์เหล่านี้มากขึ้น
การดำเนินชีวิตของคนเราอาจจะดี ขึ้นมากกว่าเดิมก็เปนได้
ในอดีตนักวิทยาศาสตร์ดังๆที่ได้ รับรางวัลโนเบลสาขาต่างๆมากมาย
หลายๆคน ก็ได้ผลงานมาจากการใช้ชีวิ ตประวันของเขาเหล่านั้นมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น เซอร์ ไอแซก นิวตัน การค้นพบกฎแรงดึงดูดของโลก (Law of Gravitation) นิวตันได้ค้น
พบทฤษฎีโดยบังเอิญ เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันหนึ่ งขณะที่นิวตันกำลังนั่งดูดวงจั นทร์ แล้วก็เกิดความสงสัยว่ าทำไมดวงจันทร์จึง ต้องหมุนรอบโลก ในระหว่างที่เขากำลังนั่ งมองดวงจันทร์อยู่เพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงแอปเปิ้ลตกลงพื้น เมื่อนิวตันเห็นเช่นนั้นก็ให้ เกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีกว่า ทำไมวัตถุต่าง ๆ จึงต้องตกลงสู่พื้นดิ นเสมอทำไมไม่ลอยขึ้นฟ้าบ้าง ซึ่งนิวตันคิดว่าต้องมีแรงอะไร สักอย่างที่ทำให้แอปเปิ้ลตกลงพื้ นดิน จากความสงสัยข้อนี้เอง นิวตันจึงเริ่มการทดลองเกี่ยวกั บแรงโน้มถ่วงของโลก การทดลองขั้น แรกของนิวตัน คือ การนำก้อนหินมาผูกเชือก จากนั้นก็แกว่งไปรอบ ๆ นิวตันสรุปจากการทดลองครั้งนี้ ว่าเชือกเป็นตัวการสำคัญที่ทำ ให้ก้อนหินแกว่งไปมารอบ ๆ ไม่หลุดลอยไป ดังนั้นสาเหตุที่โลก ดาวเคราะห์ ต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ต้องหมุนรอบโลกต้ องเกิดจากแรงดึงดูดที่ดวงอาทิ ตย์ที่มีต่อโลก และดาวเคราะห์ และแรงดึงดูดของโลกที่ส่งผลต่ อดวงจันทร์
พบทฤษฎีโดยบังเอิญ เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันหนึ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น